เว็บใหม่ ซื้อขายนาฬิกามือสอง

เลือกห้อง

ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว: "Love at first sight" Vintage Omega seamaster  (อ่าน 2832 ครั้ง)

ออฟไลน์ papa mama

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,025
    • ดูรายละเอียด
รีวิว: "Love at first sight" Vintage Omega seamaster
« เมื่อ: มีนาคม 05, 2015, 11:19:22 AM »

วันนี้โอกาสดีขออนุญาต รีวิวนาฬิกาที่ขายกินไปแล้วนะครับ  :D :D :D

นานๆทีที่จะเจอสภาพแบบนางฟ้าครับ กับ Vintage Omega seamaster ครับ

เรียกว่า Love at first sight กันทีเดียว


จั่วหัวไปแบบนั้น พอเจอนาฬิกาสวยๆ ผมก็มักจะนึกถึงผู้หญิงสวยๆ ในอดีตให้เข้ากัน

คนนี้แหละใช่เลย



Jane Birkin (1946) เจ้าของสัญลักษณ์กระเป๋า Hermes รุ่น Birkin ที่โด่งดัง และเป็นเจ้าของเพลงสุด sexy อย่างเพลง  "Je t'aime... moi non plus"

คือที่เขียนถึง Jane Birkin ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เค้าโครงหน้าในสมัยที่ยังเป็นสาววัยรุ่น ในยุค 60 ที่ยังหน้าตาใสๆ เรียกว่าใครเจอแล้วก็เหมือนตกหลุมรักเธอ

เปรียบเหมือนรักแรกพบกับ Omega seamaster ที่อยู่ในยุค 60 เรือนนี้ครับ

Omega seamster 14K Goldfilled Automatic cal.570 For US. market



ได้นาฬิกามาในตอนแรกครั้งนั้นก็ต้อง นำมาล้างเครื่องก่อนครับ

ผมอยากแนะนำพี่ๆเพื่อนๆ ว่านาฬิกาวินเทจหรือนาฬิกาที่มีอายุอานามพอสมควร ควรได้รับการตรวจเช็คครับ สะดวกที่ไหนก็ตามสบายหรือจะเป็น expert-watch ก็ได้ครับ

เพราะการที่เรานำนาฬิกาไปตรวจเช็คล้างเครื่อง จะทำให้นาฬิกาของเราอยู่กับเราไปได้อีกนาน อย่าปล่อยเครื่องโทรมๆหรือเครื่องน้ำมันแห้งเลยครับ

แล้วท่านจะรู้เลยว่านาฬิกาวินเทจ เมื่อผ่านการล้างเครื่องแล้ว เดินดีไม่แพ้นาฬิกาใหม่ครับ ส่วนตัวผมไม่ใช่ช่างนะครับ ไม่มีความรู้เรื่องนี้ผมทำไม่ได้ครับ


เครื่อง cal.570 สวยๆ เลขเครื่อง 18,xxx,xxx ประมาณปี 1964 ล้างเครื่อง หยอดนำ้มัน อย่างดี เครื่องสวยมากๆครับ



ฝาหลัง แสดงถิ่นกำเนิดเกิดแดนอเมริกา





ครับ  ต้องแจ้งกันก่อนนิดนึง ว่าในยุคสมัยก่อน ด้วยความที่ชาวอเมริกัน นิยมนาฬิกาจาก สวิสเป็นจำนวนมาก เล่นเอาลืมนาฬิกาที่ประเทศตัวเองผลิตเลยทีเดียว

ทำให้เกิดการตั้งกำแพงภาษีสำหรับนาฬิกา ข้อมือสำเร็จรูป ไม่เฉพาะแต่โอเมกาเท่านั้นครับ หลายยี่ห้อเช่น เจเกอร์ ก็ต้องส่งตัวเครื่องกับหน้าปัดไป แล้วใช้ตัวเคสที่อเมริกาผลิตครับ

ถ้าเจอเคส ที่เป็นตัวอักษรย่อ บ้าง รูปสัญลักษณ์ เช่นD&A , Dennison, J  

ข้อสังเกตที่ 1 คือ นาฬิกาเรือนนั้นถูกขายในตลาดอเมริกาครับ และมีมากมายหลายรุ่นที่ผลิตกันทีเดียว

ref.ของ Omega database ก็สามารถเช็คได้ ครับ 6298 ทุกอย่างใกล้เคียงกัน แต่ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ว่าทำไม ในเวปเป็น cal.550 แต่เรือนนี้ของผมเป็น cal.570

ผมหาข้อมูลให้แล้วครับ 1. cal.550 กับ570 เป็นเครื่องตระกูลเดียวกัน ขนาดไซส์เดียวกัน ใช้ใน seamaster เหมือนกันออกสู่ตลาดพร้อมกันในปี 1959 ต่างกันนิดเดียวตรงสะพานครับ

ดังนั้นเครื่องที่เป็นตระกูลเดียวกัน เวลาผลิตจำนวนมาก ฐานข้อมูลของ US.case อาจจะไม่ตรง100%กับ swiss case ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในเครื่องปีใกล้เคียงหรือเคสที่เหมือนกัน

ซึ่งสำหรับเรือนนี้ยืนยันได้ 100% ครับ ว่าเครื่องและเคสเป็นของตรงรุ่นกัน

ข้อสังเกตที่2  ในบางเคสที่เป็นของ อเมริกา ในบางSupplier ที่ทำตัวเรือน ฝาหลังอาจจะไม่มี ref. ที่ไม่สามารถเช็คกับ เวป Omegaได้ ไม่ต้องตกใจนะครับ แบบนี้ก็เคยเจอเหมือนกันครับ

ให้ดูเรื่องของรูปทรงตัวเรือน หน้าปัด และ movement no. เป็นหลัก ว่า เคสปิดเข้าตัวเรือน มีความสมดุลย์หรือไม่ ขอบตัวเรือนเมื่อปิดผนึกกับฝาปิดแน่นสนิทดีหรือไม่

แล้วดูเทียบกับเรือนอื่นๆในปีใกล้เคียงกันครับ ส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างกัน

แต่ถ้าเป็น ตัวเรือนสวิสนี่ เลข ref. เช็คได้เกือบทั้งหมดแล้วครับ หาข้อมูลได้ง่ายขึ้น

ส่วนถ้าเจอเคสแบบแปลกๆตัวเรือนกับหน้าปัด เครื่อง ฝาหลัง ไม่เข้ากัน งานหยาบ ฟ้อนท์ตัวอักษรไม่คมชัด ทรงแปลกๆ อันนี้ปลอมแน่นอน คนที่เล่นน่าจะได้ยินบ่อยก็พวกตัวถังเวียดนามครับ

นี่ครับเคสโอเมกาเรือนนี้ของผมที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาด อเมริกา ครับ




มาดูภาพแบบเป็นตัวเรือนบ้างครับ

หน้าสวยมากๆ หาหน้าสวยๆ ไม่มีผดกระเทาะ ที่เป็นของเดิมๆไม่ได้เขียนใหม่ หายากมากครับ เรียกว่าพอเห็นปุ๊บ ตกหลุมรักเลยครับ

หลักและเข็มทองสวยๆครับ

เคส 14 k goldfilled เนียนสวยมาก

เปลี่ยนสโนลอยด์แท้มีสัญลักษณ์ สวยใสน่าสะสมครับ

มะยมสวยๆ

ฝาหลัง ตอก 14k goldfilled ชัดเจน


ฟ้อนท์เดิมๆ คมๆ หาสวยๆยากครับ

ขนาด 34 มม. ไม่รวมมะยม บนข้อมือ 6.25 นิ้วครับ


เครื่องออโตเมติค ตระกูล 5xx ของโอเมกา ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และนาฬิกาโอเมกา ในยุคนั้นออกแบบมาโดนใจผู้คนเป็นจำนวนมาก

สวมใส่สบาย ขนาดกำลังดี จนถึงทุกวันนี้ นาฬิกาในยุคนั้น ก็ยังมีคนต้องการเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา

ยิ่งถ้าได้แบบสภาพดีๆ เครื่องใสๆ หน้าปัดสวยๆ ราคาสูงแค่ไหนผู้คนก็พร้อมจ่ายครับ อย่างเรือนนี้ที่เห็นนี่ หน้าไม่มีกระเทาะใดๆ

เห็นแล้วลืมไม่ลงจริงๆ โอกาสที่จะได้มาครอบครองอีกนี่คงยากมากๆครับ

เรือนนี้ได้ผมมีโอกาสครอบครองได้ไม่นานนัก ก็มีอันต้องพลัดพรากจากกันไป แต่ก็ดีใจที่ไปอยู่ในมือนักสะสมที่รักและมีข้อมูลเป็นอย่างดีครับ

ก็ขอจบรีวิวแบบสั้นๆครับ หากมีโอกาสผมจะรีวิวนาฬิกาสวยๆ ที่ได้ขายไปแล้วแต่ยังนึกถึงอยู่มาให้ชมอีกครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 04, 2015, 05:14:31 PM โดย papa mama »